สิ่งที่ต้องซื้อ ค่าใช้จ่าย สำหรับคนที่เพิ่งเอาแมวมาเลี้ยง และคนเลี้ยงแมวควรจะทราบไว้ - dej45.com
เนื้อเพลง เนื้อร้อง เพลง. ขับเคลื่อนโดย Blogger.

วันเสาร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2565

สิ่งที่ต้องซื้อ ค่าใช้จ่าย สำหรับคนที่เพิ่งเอาแมวมาเลี้ยง และคนเลี้ยงแมวควรจะทราบไว้

ก็เหมือนกันกับทุกเรื่อง ถ้าเราเป็นมือใหม่ เริ่มทำอะไรใหม่ ๆ เราก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรบ้าง ต้องมีอะไรบ้าง ต้องรู้อะไรบ้าง คิดว่าบทความนี้คงจะพอเป็นแนวทาง สำหรับมือใหม่ ที่เพิ่งเลี้ยงแมว เขียนโดย คนที่เลี้ยงแมว 2 ตัว ประสบการณ์การเลี้ยง 1 ปีกว่า ๆ



ไคซิน และไคว่เล่อ

สิ่งที่ต้องซื้อ / ต้องจ่าย มีด้วยกัน ดังนี้


1. วัคซีน
ค่าวัคซีนพื้นฐาน จะมีแค่ 1-2 ตัว พวกพิษสุนัขบ้านั่นเอง คลินิคใกล้บ้านท่านจะฉีดให้ได้ในราคาไม่ถึง 100 บาท หรือ 200 บาท แต่จะฉีดประมาณ 2 ครั้งนะ เข็มแรก แล้วก็เข็มกระตุ้น แต่ถ้าไป รพ.สัตว์ใหญ่ ๆ หรือคลินิคแพง ๆ ก็จะแพงขึ้น และมีวัคซีนเพิ่มเติมให้เลือกฉีดได้อีกเพื่อความสบายใจของคุณพ่อคุณแม่แมว เช่น หัดแมว ลูคีเมีย อะไรแบบนี้ เป็นต้น

2. อาหาร
อาหารสำหรับลูกแมว และจานข้าว จานน้ำดื่ม อาหารจะมีสูตรสำหรับลูกแมวอายุต่ำกว่า 1 ปี ควรซื้อเป็นสูตรแบบนี้ เพราะอาหารสำหรับลูกแมว จะมีโปรตีนที่สูงกว่าอาหารแมวโต เพราะจำเป็นกับพัฒนาการ และการเจริญเติบโต จานข้าวจานน้ำ ก็ซื้อครั้งเดียว แต่อาหารเกรดกลาง ๆ ถึงสูง ที่เป็นอาหารเม็ด ก็โลละหลายร้อย คิดคร่าว ๆ ถ้าจำไม่ผิด ลูกแมวตัวนึง น่าจะกินเดือนละเกือบ 2 กิโล

อาจจะให้อาหารเปียก สักประมาณอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อความเจริญอาหาร ก็พิจารณากันเอาเอง

3. ขนมแมว
ขนมแมว มีทั้งเป็นขนมแมวเลียเป็นซอง ๆ ราคา 10-15 บาท ไม่ควรให้บ่อย เพราะไม่ค่อยดีต่อสุขภาพ แต่แมวชอบมาก ๆ หรือขนมเป็นเม็ด ๆ ก็มีนะ ส่วนมากที่แมวชอบ จะเป็นแบบมีไส้ข้างใน (พ็อคเก็ต) เป็นอะไรที่แมวกรี้ดมาก หรือทาโร่สำหรับแมว (ไม่ควรให้ทาโร่คน เพราะมันปรุงรส เค็ม ไม่ดีต่อสุขภาพแมวอย่างยิ่ง) ขนมพวกนี้ ส่วนมากจะมีบอกว่า ควรให้แมววันละกี่เม็ด ต่อ 1 ตัว

4. กระบะทรายแมว และทรายแมว
กระบะสำหรับอึ ฉี่ ของแมว จำเป็นสำหรับการเลี้ยงแมวระบบปิด กระบะสำหรับอึของแมว ซื้อครั้งเดียว แต่ทรายแมวเป็นของสิ้นเปลือง ต้องซื้อมาเปลี่ยนทุกเดือน ทรายนี่มีหลายแบบอีก ถ้ามีกำลังซื้อ ก็สามารถซื้อของแพงขึ้นได้ไม่รู้จบ แต่หลัก ๆ ที่นิยมใช้ จะมี 2 แบบ ก็คือ 1) ทรายเบนโทไนท์ แบบใช้แล้วก็ต้องตักใส่ถุงไปทิ้งถังขยะ 2) ทรายเต้าหู้ แบบนี้แพงกว่า แต่ตักแล้วสามารถทิ้งชักโครกแล้วกดได้เลย ไม่อุดตัน สำหรับแมว 1 ตัว ต่อ 1 เดือน จะใช้ทรายประมาณ 10 ลิตร หลังจากนั้นก็ต้องซื้อใหม่มาเปลี่ยน เพื่อสุขอนามัยของแมว และตัวท่านเอง ส่วนราคา ก็แล้วแต่ว่าท่านซื้อแบบไหน มีหลายเกรด หลายยี่ห้อด้วยนะ 

5. ของเล่นแมว
บางคนอาจจะคิดว่าไม่จำเป็น แต่มีบางอย่างที่จำเป็น เช่น ที่ลับเล็บ เพื่อแมวจะได้มีใช้ยามที่เครียด ๆ (แมวผมลับเล็บทุกครั้งที่ตื่นนอน และตอนผมกลับจากข้างนอก แบบแก้เขิน หรืออะไรก็ไม่รู้ แต่ต้องลับทุกครั้ง 555) ถ้าไม่มีที่ลับเล็บให้เพียงพอ แมวก็อาจจะลับเล็บกับเฟอร์นิเจอร์ หรือของใช้ของท่าน เช่นโซฟา ราคาก็ 50 บาท ถึงหลายร้อยบาทเลยก็มี สำหรับแบบพิสดาร ๆ ส่วนไม้ตกแมว อันนึงไม่แพง 15-30 บาท แต่ก็จะมีแบบเกรดดี ๆ หน่อย เช่นเหมือนคันเบ็ด เปลี่ยนของเล่นได้ เปลี่ยนกระดิ่งได้ ชุดละเป็นร้อยก็มี แต่ถ้าทำเองก็เอาไม้ยาว ๆ ผูกริบบิ้น แมวก็กรี้ดแล้ว เล่นทั้งวัน ขอแค่มีเวลาเล่นด้วย 

อีกอย่างที่แมวชอบเล่นมาก แบบเราไม่ต้องซื้อก็ได้ คือลังกระดาษ ชอบเข้าไปนอน ถ้ามีหลายตัวก็เข้าไปเล่นซ่อนแอบกัน สนุกมาก ลองหากล่องพัสดุมาวางให้แมวเล่นดู

6. ของใช้อื่น ๆ
ยังมีของจำเป็นอื่น ๆ อีก เท่าที่นึกออกคือ 
    1) ที่ตัดเล็บ ตัดประมาณ 1-2 อาทิตย์ต่อครั้ง ไม่งั้นมันจะข่วนเราเจ็บมาก ตัดบ่อย ๆ ให้แมวชิน เพื่อสวัสดิภาพของแขนขาเราเอง และของใช้ในบ้านของเรา อันละ 30-40 บาท
    2) ที่เช็ดหูแมว จะมีน้ำยาเช็ดหูแมว ขวดละไม่ถึงร้อย ถึง 3-400 บาท ถ้าไม่เช็ด อาจจะสะสมสิ่งสกปรก และก่อปัญหาในภายหลังได้ แล้วก็ต้องมีสำลีแผ่น ๆ กับคอตตอนบัตด้วยนะ
    3) ยาหยดเห็บ บางคนก็เอาไปหยดที่คลินิคทุกเดือน หรือซื้อมาใช้เองที่บ้าน แบบหยดใส่หลังคอ ต้องระมัดระวังในการใช้ ปรึกษาหมอที่คลินิคก่อนซื้อมาใช้เองก็ได้ เพราะต้องใช้ประมาณตามน้ำหนักตัวของแมวด้วย ถ้าซื้อมาใช้เอง หลอดละ 200 กว่าบาท อยู่ได้ 1 เดือน (แต่ถ้าเลี้ยงระบบปิด ไม่เจอแมวตัวอื่น ไม่ออกข้างนอกเลย อาจจะห่างกว่านี้ก็ได้นะ เพราะเสี่ยงต่ำ)
    4) แชมพูอาบน้ำ แมวส่วนใหญ่ไม่ชอบน้ำเท่าไหร่ จะทำความสะอาดตัวเอง แต่ก็ต้องอาบน้ำบ้าง 2 อาทิตย์ครั้งก็ยังดี แชมพูก็เลือกซื้อเอาได้ ตามที่ชอบเลย ถูกสุด แบบธรรมดา ๆ ก็ 80 บาทก็มี
    5) ปลอกคอ กระดิ่ง ลืมได้ไง อาจจะสั่งปลอกคอแบบติดชื่อเบอร์โทร พ่อแม่แมวไว้ เผื่อแมวหลุดออกไปข้างนอกแล้วหลงทาง จะได้มีคนพากลับมาส่งได้ ป้ายชื่อที่เคยทำมาอันละ 69 - 89 บาท ส่วนปลอกคอดี ๆ ก็อันละหลัก 100 บาท ไม่ได้ซื้อบ่อย เอาดี ๆ หน่อยก็ได้
    6) กระเป๋า ตะกร้า สำหรับพาแมวออกไปข้างนอก ไม่ว่าพาไปหาหมอ หรือพาไปเที่ยว
    7) สายรัดตัว แบบรัดแขนรัดหน้าอก และสายจูง เผื่อเวลาอยากจูงไปข้างนอก หรือเอาใส่กระเป๋า ก็ควรใส่สายรัดไว้

8. ค่าใช้จ่ายที่อาจะไม่คาดคิด
แมวอาจจะป่วย เป็นโรคอะไรที่แมวมีโอกาสจะเป็นได้ ที่ฮิตสุดคือก็คือราแมว ถ้าความชื้นสูง แมวร่างกายอ่อนแอ ก็จะเกิดอาการได้ ทีนี้จะต้องไปหาหมอ และซื้อยามารักษา อันนี้ต้องมียากิน ยาพ่นแผล คอลล่าสำหรับสวมไม่ให้แมวเกาแผล และแชมพูยาเฉพาะ สำหรับอาบน้ำแมว

ของที่ไม่จำเป็นต้องซื้อก็ได้ แต่ซื้อก็ดี


1. คอนโดแมว หรือที่นอนแบบเปล ติดกระจก
แมวจะชอบมาก ถ้าได้นอนที่สูง ๆ เป็นส่วนตัว ราคามันไม่แพงนะคอนโดแมว หาดูใน shopee อันที่ดี ๆ คอนโดอันละ 5-600 บาทก็มี เปลติดกระจกก็ 100-150 บาท อาจจะมองว่าไม่จำเป็น ไม่ต้องมีก็ได้ แต่ถ้ามี แมวจะ Happy มาก

2. เสื้อผ้า พร็อบแมว
พร็อบสำหรับใส่ ถ่ายรูปเกร๋ ๆ 555 ไม่จำเป็นก็ได้ แต่ถ้านอนห้องแอร์ ก็อยากให้มีเสื้อสำหรับใส่ตอนกลางคืน แมวจะได้ไม่หนาว สังเกตว่ามันจะนอนซุก ๆ เรา หรือไม่ก็นอนขดเป็นวงกลม เสื้อตัวนึงก็ 50-100 บาท ถ้าใส่เฉพาะตอนนอน ก็มีแค่ 1-2 ตัวพอ

3. อาหารสำหรับแมวป่วย
จะมีอาหารเปียก สำหรับแมวป่วย หรือแมวท้องเสีย ก็อย่างที่บอกว่าถ้าเราจ่ายเพิ่มได้ ก็พัฒนาคุณภาพชีวิตแมวได้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ไม่จำกัด อาหารสำหรับแมวป่วย มีติดไว้สำรองก็ดี เผื่อแมวป่วยกินข้าวไม่ได้ เราก็จะได้ไม่ต้องกังวล (อาหารแมวป่วยจะกินง่าย ไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ)

4. น้ำพุแมว
แมวจะสนใจอะไรที่เคลื่อนไหว มีแสง มีเสียง ซึ่งน้ำพุแมวตอบโจทย์นั้น มีน้ำไหลตลอดเวลา มีกรองเพื่อความสะอาด และมีไฟ led ติดตลอดเวลา เพื่อแมวจะได้เดินไปกินตอนกลางคืนได้ ที่เอามาไว้ในหมวดที่ไม่จำเป็นต้องซื้อก็ได้ เพราะส่วนตัวแมวที่เลี้ยงไว้ ชอบกินน้ำในกะละมัง ก็มีน้ำในน้ำพุไว้ให้กินด้วย สลับกัน คือถ้าแมวกินน้ำน้อย ก็ไม่ดีต่อสุขภาพนะ เอาเป็นว่า มีหรือไม่มีก็ได้ แต่ถ้าจะซื้อแบบถูก ๆ อันละ 2-300 บาทก็มี

5. ทิชชู่เปียก สำหรับสัตว์เลี้ยว
เอาไว้เช็ดขี้ตา เช็ดก้น ถ้าเลอะเทอะ ถ้าไม่ซื้อ ก็ใช้ผ้าที่เอาไว้ให้แมวใช้โดยเฉพาะ ชุบน้ำบิดหมาดเช็ดก็ได้

พอมาลิสดูทั้งหมด ก็เยอะมากเหมือนกัน ใครมาอ่านก่อนเลี้ยง ก็ต้องคิดให้รอบคอบก่อน นอกจากสถานที่เลี้ยงที่ต้องเอื้ออำนวยแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายที่มองเห็น และมองไม่เห็นรออยู่อีกเยอะมาก หวังว่าเป็นแนวทางสำหรับคนอยากเลี้ยงแมวได้ มีอะไรคอมเม้นไว้ได้นะครับ จะได้พูดคุยกัน